ในยุคที่แสงแดดแรงและมลภาวะเพิ่มขึ้น การใช้ครีมกันแดดกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูแลผิวหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า การใช้กันแดดผิดวิธี หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีบางชนิด อาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้เกิดปัญหาสิวขึ้นอย่างรุนแรง และทำให้ผิวหน้าพังโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว
สารเคมีในกันแดดที่อาจรบกวนฮอร์โมนและทำให้ผิวพัง
ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV อันตราย แต่ในกันแดดบางชนิดมีสารเคมีที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนในร่างกาย เมื่อใช้เป็นประจำและสะสมในระยะยาว สารเคมีเหล่านี้อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดความไม่สมดุล ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวและสุขภาพตามมาได้
สารเคมีที่พบบ่อยในครีมกันแดดและมีผลต่อฮอร์โมน ได้แก่
- Oxybenzone
สารนี้เป็นตัวกรองแสง UV ที่พบได้บ่อยในกันแดด แต่มีคุณสมบัติเลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทำให้เกิดความผิดปกติของฮอร์โมนเพศหญิงและอาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์
- Octinoxate
อีกหนึ่งสารที่ช่วยป้องกัน UV แต่มีรายงานว่ารบกวนการทำงานของฮอร์โมนเพศและระบบต่อมไร้ท่อ ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย
- Homosalate และ Octocrylene
สารเคมีเหล่านี้สามารถสะสมในร่างกายและรบกวนการทำงานของฮอร์โมน ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือปัญหาผิวหนังต่างๆ
ผลกระทบจากการใช้กันแดดผิดวิธีและสารเคมีสะสม
การใช้ครีมกันแดดผิดวิธีหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี สารเคมีรบกวนฮอร์โมน โดยไม่รู้ตัว อาจนำมาซึ่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพผิวและระบบฮอร์โมนในร่างกายอย่างรุนแรง ดังนี้

ฮอร์โมนปั่นป่วน ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และสุขภาพโดยรวม
สารเคมีบางชนิดในกันแดด เช่น Oxybenzone และ Octinoxate มีฤทธิ์เลียนแบบฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน) เมื่อสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน จะทำให้ฮอร์โมนในระบบสืบพันธุ์เกิดความไม่สมดุล ส่งผลให้ประจำเดือนผิดปกติ มีอาการปวดประจำเดือนรุนแรง หรือแม้แต่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เช่น มะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก
สิวพุ่งและผิวอักเสบจากการแพ้สารเคมี
สารเคมีในกันแดดบางชนิดสามารถทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและแพ้ได้ง่าย โดยเฉพาะในคนที่มีผิวบอบบางหรือผิวมัน เมื่อใช้กันแดดที่มีสารเคมีรุนแรงหรือใช้ผิดวิธี เช่น ทาไม่ทั่วถึง ล้างหน้าไม่สะอาด สิ่งเหล่านี้จะทำให้รูขุมขนอุดตัน เกิดสิวอักเสบ สิวผด และผิวแดงอักเสบตามมา
ผิวหน้าพัง รูขุมขนกว้าง และผิวหมองคล้ำ
การใช้กันแดดที่ไม่เหมาะสมหรือมี สารเคมีสะสม ในผิวหนังเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวสูญเสียความสมดุลตามธรรมชาติ ผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้างขึ้น และผิวหมองคล้ำโดยไม่สามารถฟื้นฟูได้ง่าย นอกจากนี้ การล้างหน้าไม่สะอาดหลังใช้กันแดดยังทำให้สิ่งสกปรกและสารเคมีตกค้างในรูขุมขน ทำให้ผิวเสียและเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
ข้อผิดพลาดในการใช้ครีมกันแดดที่ทำให้ผิวเสีย
แม้การทาครีมกันแดดจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปกป้องผิวจากแสงแดด แต่หลายคนกลับเผลอทำผิดพลาดในการใช้กันแดด ซึ่งส่งผลให้ผิวหน้าเกิดปัญหาได้ง่ายขึ้น มาดูข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและวิธีหลีกเลี่ยงกันค่ะ
ไม่ทาครีมกันแดดซ้ำตามระยะเวลา
ครีมกันแดดส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพปกป้องผิวได้ประมาณ 2-4 ชั่วโมงเท่านั้น หากไม่ทาซ้ำระหว่างวัน รังสี UV จะทำร้ายผิวได้โดยตรง ส่งผลให้ผิวเสียและเกิดปัญหาสิวตามมา
ลืมทาครีมกันแดดในวันที่ฟ้าครึ้มหรือตามซอกผิว
หลายคนคิดว่าในวันที่ไม่มีแดดจัดหรือฟ้าครึ้มไม่จำเป็นต้องทากันแดด ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เพราะรังสี UVA สามารถทะลุผ่านเมฆได้ และยังมีรังสีที่สะท้อนจากพื้นผิวต่างๆ ทำให้ผิวได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ การลืมทาครีมในซอกผิว เช่น รอบดวงตา หลังใบหู หรือบริเวณลำคอ ก็ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดปัญหาได้ง่าย
เลือกค่า SPF ไม่เหมาะสมกับกิจกรรมหรือสภาพผิว
การเลือกค่า SPF ที่ต่ำเกินไปสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเผชิญแดดนาน หรือเลือก SPF สูงเกินไปโดยไม่เหมาะกับผิว อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือปัญหาสิวตามมา ควรเลือก SPF 30-50 สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทั่วไป และใช้สูตรที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น สูตรสำหรับผิวมันหรือผิวแพ้ง่าย
ใช้กันแดดที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว
บางคนมีผิวมันหรือผิวแพ้ง่าย แต่เลือกใช้กันแดดเนื้อครีมที่หนักหรือมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดสิว เช่น น้ำมันหรือสารกันเสียบางชนิด ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนและสิวขึ้นเพิ่มขึ้น
วิธีป้องกันและแก้ไขเมื่อใช้กันแดดแล้วสิวขึ้นหรือผิวพัง
เมื่อรู้แล้วว่าการใช้กันแดดผิดวิธีหรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวพังและสิวขึ้นได้ เรามาดูแนวทางป้องกันและวิธีแก้ไขอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผิวกลับมาสวยใสและสุขภาพดีอีกครั้ง

เลือกใช้กันแดดที่ปลอดภัยและเหมาะกับสภาพผิว
- เลือกกันแดดประเภท Physical Sunscreen (กันแดดแบบสะท้อนแสง เช่น ที่มีส่วนผสมของ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide) ซึ่งอ่อนโยนต่อผิวและไม่รบกวนฮอร์โมน
- สำหรับผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสูตรที่ไม่มีน้ำหอมและสารกันเสียที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
- เลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น สูตรกันน้ำสำหรับผิวมัน หรือสูตรเนื้อบางเบาสำหรับผิวผสม
ทาครีมกันแดดให้ทั่วและทาซ้ำตามเวลาที่เหมาะสม
- ทาครีมกันแดดอย่างน้อย 15-30 นาที ก่อนออกแดด เพื่อให้สารกันแดดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- ทาซ้ำทุก 2-4 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อเหงื่อออกมาก หรือหลังว่ายน้ำ เพื่อป้องกันการโดนแดดโดยตรง
- อย่าลืมทาครีมกันแดดในบริเวณที่มักลืม เช่น รอบดวงตา หลังใบหู และลำคอ
ล้างหน้าให้สะอาดหลังใช้กันแดด
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิว เพื่อขจัดคราบกันแดดและสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน
- ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เพื่อป้องกันการเกิดสิวและผิวอักเสบ
ดูแลผิวด้วยการบำรุงและพักผิว
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น เซรั่มวิตามินซี หรือครีมบำรุงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ให้ผิวได้พักจากการใช้เครื่องสำอางและกันแดดบ้างในบางวัน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูตามธรรมชาติ
การเลือกใช้กันแดดที่ปลอดภัย
การใช้ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ แต่หากใช้ผิดวิธีหรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ ไม่มีสารเคมีรบกวนฮอร์โมน โดยไม่รู้ตัว อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดความไม่สมดุล ส่งผลให้สิวขึ้นอย่างรุนแรง ผิวหน้าพัง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้
อิชช่า เอ็กซ์เอส (ITCHA XS) อาหารเสริม เบนซ์ พรชิตา
฿1,380.00฿690.00B.one biotics by CUphar ผลิตภัณฑ์แคลเซียม ผสมโปรไบโอติกส์
Tiny CocoMelon เครื่องดื่มผสมคอลลาเจน แตงโม และ มะพร้าว
Madame Louise Brightamin Soap 120g