อีกโรคระบาดที่ถูกพูดถึงมาในช่วงนี้ก็คือ ฝีดาษลิง ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน และกลายพันธุ์จนสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ โดยมีความคล้ายคลึงกับอีสุกอีใส เป็นหนึ่งในโรคประเภทไข้ออกผื่น โดยปรกติแล้วจะสามารถหายเองได้ เราจะมาทำความเข้าใจกับโรคนี้กันให้มากขึ้น รู้ถึงที่ไปที่มา สาเหตุอาการ การป้องกัน และแนวทางในการรักษา ไว้ให้ทุกคนได้ปลอดภัยจากโรคนี้ักันครับ
ทำความรู้จักกับโรคฝีดาษลิง
ฝีดาษคือหนึ่งในโรคที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นโรคที่ติดต่อจากคนสู่คนได้ง่าย เพียงแค่ละอองจากการไอหรือจามที่เจือปนอยู่ในอากาศก็สามารถติดต่อได้จึงทำให้มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและแพร่กระจายเป็นวงกว้าง เป็นหนึ่งในโรคที่เมื่อเป็นแล้วมีอาการรุนแรงและมีโอกาสเสียชีวิตสุงถึง 30% แต่ในปัจจุบันโรคฝีดาษได้ถูกกำจัดไปจนหมดแล้ว ส่วนจุดเริ่มต้นนั้นโรคฝีดาษลิงมีการระบาดอยู่เฉพาะในประเทศแถบแอฟริกา พบในสัตว์ฟันแทะเช่น หนู กระรอก โดนค้นพบครั้งแรกในลิง จึงเป็นที่มาของชื่อโรคนั่นเอง และเมื่อปี 2003 ได้เกิดการแพร่ระบาดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้นเหตุมาจาก แพรี่ด็อก ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศคองโก ซึ่งโรคได้วิวัฒนาการจากสัตว์สู่สัตว์มาเป็นจากสัตว์สู่คนและจากคนสู่คนในที่สุด โดยมี 2 สายพันธุ์ได้แก่ Clade 1 ซึ่งเป็นสายพันธ์จากแอฟริกากลาง ซึ่งผู้ติดเชื้อมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 10% และ Clade 2 เป็นสายพันธุ์ที่มาจากแอฟริกาตะวันตกซึ่งผู้ติดเชื้อมีโอกาสเสียชีวิตเพียง 1%
อาการของฝีดาษลิง
ในสัตว์
ในตระกูลลิงหลังได้รับเชื้อจะมีผื่นขึ้นอยู่ประมาณ 4-6 สัปดาห์และจะมีตุ่มหนองขึ้นตามร่างกาย โดยจะพบตามือ หน้า แขนขา ฝ่ามือ เท้า ส่วนในสัตว์ฟันแทะ จะมีอาการมีไข้ ตาแดง มีน้ำมูก มีตุ่มหนองขึ้นตามตัว และมีขนร่วงเป็นหย่อมๆ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการปอดบวมและตายได้
ในมนุษย์
- ระยะฟักตัว เริ่มแรกจะไม่มีอาการแต่จะแสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อแล้ว 12 วัน
- ระยะแสดงอาการ มีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดหัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต
- หลังจากเชื้อฟักตัว 1-2 วันก็จะเกิดผื่นขึ้นจนเป็นตุ่มหนองและกลายเป็นสะเก็ดจนหลุดออกมา
- ระยะฟื้นตัว โดยจะมีอาการ 2-4 สัปดาห์ และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายเองได้ แต่มีโอกาสเกิดอาการรุนแรง หรือมีอาการแทรกซ้อนได้ เช่น การติดเชื้อเข้ากระแสเลือด
ช่องทางการแพร่กระจายของเชื้อ
ไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนังที่มีแผล ทางเดินหายใจ หรือผ่านทางตา จมูก หรือปาก รวมถึงสารคัดหลั่งต่าง ซึ่งในปี 2022 มีการแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์
วิธีการป้องกันการติดเชื้อฝีดาษลิง
วัคซีนคือตัวช่วยที่รวดเร็ว
ในปัจจุบันสามารถป้องกันการติดโรคฝีดาษลิงได้โดยอาศัยวัคซีนที่จะเข้ามาช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ซึ่งสามารถป้องกันได้สูงถึง 85% เลยทีเดียว แต่ก็ไม่แนะนำให้ฉีด แต่ถ้าหากท่านมีความกังวลก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากฝีดาษนั้นไม่ได้พบบ่อยในประเทศไทย
ป้องกันด้วยการดูแลสุขภาพ
แน่นอนว่าการอยู่ห่างจากพาหะนำโรค รวมถึงการรักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาด การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารคัดหลังจากผู้ที่มีประวัติเสี่ยง ที่สำคัญคือการดูแลสุขภาพร่างกายให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ
ข้อเสนอสุดพิเศษ
เสริมภูมิคุ้มกันช่วยบรรเทาอาการ
อีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง นั่นคือการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบ การเสริมภูมิคุ้มกันด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้สะดวกสบายและง่ายได้ ในปัจจุบันนั้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมีให้เลือกหลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนที่ตัดสินใจ เพื่อสุขภาพที่ดีและเพิ่มภูมิคุ้มกันกับโรคต่างๆในระยะยาว