กินผิดชีวิตเปลี่ยน! 8 เมนูที่คนกรดไหลย้อนต้องเลี่ยงให้ไว

ผักดิบเป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบเพราะมีวิตามินและแร่ธาตุสูง แต่สำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อน ผักดิบบางชนิดกลับกลายเป็นตัวกระตุ้นให้อาการแสบร้อนกลางอกและจุกเสียดท้องกำเริบได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผักที่มีกลิ่นฉุนและรสจัด เช่น หอมหัวใหญ่ดิบ กระเทียม พริก พริกไทย และหอมแดง

สาเหตุที่ผักดิบเหล่านี้ทำให้อาการกรดไหลย้อนแย่ลง เพราะมีสารบางชนิดที่กระตุ้นให้กระเพาะอาหารผลิตกรดมากขึ้น นอกจากนี้ การเคี้ยวผักดิบยังทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารมากขึ้น ส่งผลให้ความดันในกระเพาะเพิ่มขึ้นและกรดไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้น

อาหารหมักดองเป็นเมนูที่หลายคนโปรดปราน เพราะมีรสชาติเปรี้ยว เค็ม และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง กิมจิ หรือแม้แต่ซูชิบางชนิดที่มีผักดองเป็นส่วนประกอบ แต่สำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อน อาหารหมักดองเหล่านี้ถือเป็น “กับดัก” ที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

เหตุผลคือ อาหารหมักดองมักมีกรดและเกลือสูง รวมถึงจุลินทรีย์ที่เกิดจากกระบวนการหมัก ซึ่งสามารถกระตุ้นให้กระเพาะอาหารผลิตกรดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารมากขึ้น ส่งผลให้ความดันในกระเพาะสูงขึ้นและกรดไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้น อาการจุกเสียด แน่นท้อง และแสบร้อนกลางอกจึงเกิดขึ้นบ่อยและรุนแรงขึ้น

หลายคนที่ดูแลสุขภาพมักเลือกทานอาหารเสริมเพื่อเพิ่มวิตามินและสารอาหารต่างๆ แต่สำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน อาหารเสริมบางชนิดโดยเฉพาะที่มีไขมันสูง เช่น น้ำมันตับปลา สารสกัดจากกระเทียม วิตามินอี หรือวิตามินซีในรูปแบบน้ำมัน อาจกลายเป็นกับดักที่ทำให้อาการกรดไหลย้อนแย่ลงได้

สาเหตุเพราะไขมันในอาหารเสริมเหล่านี้จะทำให้กระเพาะอาหารต้องใช้เวลาย่อยนานขึ้น ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารถูกกระตุ้นให้หลั่งมากขึ้นและอยู่ในกระเพาะนานขึ้น นอกจากนี้ ไขมันสูงยังทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนปลาย (Lower Esophageal Sphincter) หย่อนคล้อย ทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาได้ง่ายขึ้น

แม้ว่าหมากฝรั่งจะเป็นสิ่งที่หลายคนใช้เคี้ยวเพื่อช่วยให้ลมหายใจสดชื่น หรือช่วยลดความอยากอาหาร แต่สำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน หมากฝรั่งกลับเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง

สาเหตุหลักมาจากการเคี้ยวหมากฝรั่งจะทำให้เรากลืนน้ำลายและลมเข้าไปในกระเพาะอาหารมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความดันในกระเพาะอาหารเพิ่มสูงขึ้น และกระตุ้นให้กรดในกระเพาะไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การเคี้ยวหมากฝรั่งยังกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นอีกด้วย

อาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ผัด กะทิ ครีม เนย และชีส ถือเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบได้ง่ายและรุนแรงขึ้น อาหารเหล่านี้ย่อยยากและใช้เวลานานในการย่อยในกระเพาะอาหาร ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารถูกกระตุ้นให้หลั่งมากขึ้นและค้างอยู่ในกระเพาะนานขึ้น

นอกจากนี้ ไขมันสูงยังส่งผลให้หูรูดหลอดอาหารส่วนปลาย (Lower Esophageal Sphincter) ทำงานผิดปกติหรือหย่อนคล้อย ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้น อาการแสบร้อนกลางอก จุกเสียดแน่นท้อง และเรอบ่อยจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว เกรปฟรุต และมะเขือเทศ เป็นแหล่งวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อน ผลไม้เหล่านี้อาจกลายเป็นตัวกระตุ้นให้อาการกำเริบได้ง่าย

เนื่องจากผลไม้รสเปรี้ยวมีความเป็นกรดสูง เมื่อรับประทานเข้าไปจะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเพิ่มขึ้น และอาจทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนปลายทำงานผิดปกติ ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ทำให้อาการแสบร้อนกลางอกและจุกเสียดท้องเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

อาหารรสเผ็ดจัดและพริกเป็นเมนูโปรดของหลายคนที่ชอบรสชาติจัดจ้าน แต่สำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน อาหารเหล่านี้ถือเป็น “ศัตรูตัวฉกาจ” ที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

สารแคปไซซิน (Capsaicin) ที่พบในพริกและเครื่องเทศรสเผ็ด มีผลกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมากขึ้น และยังทำให้อาหารย่อยช้าลง ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารค้างอยู่นานและมีโอกาสไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหาร นอกจากนี้ แคปไซซินยังสามารถทำให้เยื่อบุหลอดอาหารระคายเคืองและอักเสบได้ง่ายขึ้น

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา ช็อกโกแลต รวมถึงน้ำอัดลมและเครื่องดื่มชูกำลัง เป็นสิ่งที่หลายคนดื่มเป็นประจำเพื่อเพิ่มความสดชื่นและกระตุ้นสมอง แต่สำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน เครื่องดื่มเหล่านี้กลับเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้อาการกำเริบได้ง่าย

คาเฟอีนในเครื่องดื่มเหล่านี้มีผลทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนปลาย (Lower Esophageal Sphincter) คลายตัวมากกว่าปกติ ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ น้ำอัดลมยังมีฟองแก๊สที่เพิ่มความดันในกระเพาะอาหาร ทำให้อาการจุกเสียด แน่นท้อง และเรอบ่อยเกิดขึ้นบ่อยครั้ง